กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามและจำเป็นจะต้องได้รับการกายภาพบำบัดกล้ามเนื้ออักเสบอย่างถูกวิธี อาการปวดกล้ามเนื้อตามร่างกายเกิดขึ้นได้ทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดความวิตกกังวล เกิดปัญหาทางสภาพจิตใจและปัญหาด้านอารมณ์อื่นๆ ได้ด้วยลักษณะของกล้ามเนื้ออักเสบแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อส่วนเดิมหรือมัดเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ จนกล้ามเนื้อสะโพกอักเสบ การเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อส่วนเดิมทุกๆ วัน จนกล้ามเนื้อเอ็นอักเสบ และเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นถูกใช้งานติดต่อกันเป็นเวลา ก็จะทำให้เกิดก้อนอักเสบที่ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดตามร่างกาย
นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบ คือ การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาลดไขมันในเลือด ยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบ ยารักษาโรคเก๊าท์ เป็นต้น ซึ่งยาเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่จำเป็นต้องเข้ารับกายภาพบําบัดกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างถูกต้อง
กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุระหว่าง 28-50 ปี และจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบอาการให้ชัดเจน เพื่อเข้าให้แน่ใจว่าควรเข้ารับการกายภาพบำบัดกล้ามเนื้ออักเสบหรือไม่ ผู้ป่วยมักจะมีอาการ ดังนี้
หากมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกอ่อนแรงจนยกแขนไม่ขึ้น หรือบางคนอาจรุนแรงถึงขั้นลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ กลืนอาหารไม่ได้ หายใจไม่สะดวก ถือเป็นสัญญาณของอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงทั่วตัว ที่เกิดจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังอย่างออฟฟิศซินโดรม จะทำให้เกิดอาการนิ้วล็อก เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบจนปวดหลังส่วนล่างหรือปวดเอวแบบเรื้อรัง ทำให้ขยับตัวและใช้ชีวิตลำบากขึ้น
หากเกิดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ และไม่รีบรักษา อาจส่งผลต่อความผิดปกติของระบบกระดูก ระบบย่อยอาหาร ระบบหลอดเลือดและระบบฮอร์โมน รวมถึงสุขภาพจิตด้วย หากสังเกตว่ามีปัญหาเหล่านี้ ให้รีบเข้าพบแพทย์ เพื่อรับการรักษา ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาการเหล่านี้ไม่สามารถหายเองได้ เว้นแต่จะได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
หากเกิดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อเฉียบพลัน และเข้ารับการรักษาหรือได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ก็สามารถรักษาให้หายเองได้ แต่ในกรณีที่กลายเป็นอาการปวดแบบเรื้อรัง และไม่ได้รับการรักษาเป็นระยะเวลานาน ก็จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งสามารถสังเกตระยะเวลาของการอักเสบที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะได้ดังนี้
หากเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อแบบไม่รุนแรง สามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง โดยการประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดและบวมในช่วง 48 ชั่วโมงหลังได้รับบาดเจ็บ และเมื่อผ่านไป 3-5 วันแล้ว ให้เริ่มประคบร้อนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดการใช้งานของกล้ามเนื้อและอาจใช้ผ้าพยุงกล้ามเนื้อร่วมด้วย
การกายภาพบำบัดสามารถทำได้เพื่อฟื้นฟูร่างกายหลังป่วยให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ทาง BPC ให้บริการกายภาพบำบัดหลากหลายประเภท เช่น กายภาพบำบัดกระดูกสะโพกหักเพื่อการฟื้นฟูผู้ป่วยกระดูกสะโพกหัก กายภาพบําบัดกระดูกหัก กายภาพบำบัดหมอนรองกระดูก กายภาพกล้ามเนื้ออ่อนแรง กายภาพบำบัดเส้นเอ็นอักเสบ กายภาพสลักเพชรจม และกายภาพบําบัดกล้ามเนื้อหนีบเส้นประสาท เป็นต้น
ซึ่งแพทย์จะทำการวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียดและเริ่มวางแผนการรักษาให้แก่ผู้ป่วยแต่ละคนอย่างเหมาะสม โดยการกายภาพบำบัดจะมีการบริหารเพื่อยืดกล้ามเนื้อ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ การใช้เครื่องมือเพื่อกระตุ้นฟื้นฟูกล้ามเนื้อ อย่างคลื่นอัลตราโซนิกส์และการใช้คลื่นไฟฟ้า EMG ร่วมด้วย
4 ขั้นตอนการบำบัดของ BPC ที่กำหนดขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อนำคุณไปสู่การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แบบและส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับผิดชอบสุขภาพของตัวเองผ่านโปรแกรมการออกกำลังกายที่กำหนดขึ้นแบบเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
ขั้นตอนแรกของการรักษา คือการลดอาการปวดแบบทันที เราจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเลเซอร์ และเครื่อง shockwave เพื่อลดความไม่สบายตัวและอาการปวดกล้ามเนื้อ นี่จะช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลาย และกลับไปใช้งานได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
เราใช้การรักษาแบบ “หัตถการ” หรือ การบำบัดด้วยมือ โดยนักบำบัดของเราจะใช้มือวิธีนวดมือกับผู้ป่วยเพื่อช่วยผ่อนคลายข้อต่อ บรรเทาอาการเจ็บปวดของเนิ่อเยื่ออ่อนและคลายเส้นประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ยึดตึง คุณจะสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อกล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายแล้ว นักบำบัดของเราจะทำการเพิ่มขอบเขตการเคลื่อนไหวให้คุณ เพื่อให้ข้อต่อหรือกล้ามเนื้อที่ไม่เจ็บแล้วสามารถให้งานได้อย่างเต็มที่ หลังจากทำการบำบัดในขั้นตอนนี้ร่ววมกับนักบำบัดของเรา คุณจะเคลื่อนไหวได้ดีมากขึ้น เร็วขึ้นและยังได้เทคนิคการเคลื่อนหวเพื่อป้องกันการบาดเจ็บในอนาคตเพิ่มด้วย และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น คุณจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟูร่างกายด้วยการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
เพื่อให้ขั้นตอนการรักษาสมบูรณ์ พวกเราได้สร้างแผนการรักษาในรูปแบบที่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความเจ็บปวดและการอักเสบจะไม่กลับมาอีก ซึ่งจะทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขมากขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังได้ใช้เวลามากขึ้นกับคนที่คุณรักอีกด้วย
Whether you’re sick or in good health,
we have the best place to assist you.