ข้อศอก เป็นข้อต่อที่ประกอบด้วยกระดูก 3 ชิ้น คือ กระดูกต้นแขน 1 ชิ้นและกระดูกต้นแขนส่วนล่าง 2 ชิ้น โดยบริเวณต้นแขนจะมีปุ่มกระดูกที่เรียกว่า epicondyles ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดเกาะของกล้ามเนื้อที่แขนส่วนล่าง โดยปุ่มกระดูกของต้นแขนส่วนล่างจะมีทั้งที่อยู่ด้านนอกและด้านใน เมื่อเกิดการบาดเจ็บบริเวณปุ่มกระดูกด้านนอก(ฝั่งเดียวกับนิ้วโป้ง) จะเรียกอาการบาดเจ็บนี้ว่า Tennis elbow และ เมื่อเกิดการบาดเจ็บบริเวณปุ่มกระดูกด้านใน(ฝั่งเดียวกับนิ้วก้อย) จะเรียกอาการบาดเจ็บนี้ว่า Golfer’s Elbow
โรคเอ็นข้อศอกด้านนอกอักเสบ (Tennis elbow)อาการบาดเจ็บจะเกิดที่บริเวณปุ่มกระดูกด้านนอกที่มีเส้นเอ็นกล้ามเนื้อมายึดเกาะ มักจะเกิดอาการบาดเจ็บเมื่อใช้งานมากเกินไปของแขนและข้อมือ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะพบได้บ่อยในนักกีฬาพวกแร็กแก็ตและพนักกงานบริษัทที่ไม่เคยเล่นกีฬาแร็กแก็ตก็ตาม
อาการบาดเจ็บนอกจากจะเกิดที่บริเวณปุ่มกระดูกและเส้นเอ็นแล้วก็มักจะมีอาการปวดที่บริเวณกล้ามเนื้อปลายแขนและมือร่วมด้วย โดยกล้ามเนื้อมักมีอาการอักเสบหรือกล้ามเนื้อฉีกขาดเพียงเล็กน้อยบริเวณด้านนอกของศอก
อาการที่คล้ายกับ tennis elbow ก็คือ golfer’s elbow ซึ่งจะมีอาการปวดคล้ายกันแต่ต่างกันที่ตำแหน่ง golfer’s elbow จะปวดบริเวณข้อศอกด้านใน โดยอาการของ tennis elbow อาจจะมีอาการอ่อนแรงของแขน ข้อมือและมีอาการชาที่นิ้วนางหรือนิ้วก้อยร่วมด้วย
โรคเอ็นข้อศอกด้านในอักเสบ(Golfer’ elbow)เป็นการบาดเจ็บที่เกิดความเสียหายจากกล้ามเนื้อและเอ็นที่ควบคุมการทำงานของการกระดกข้อมือและงอนิ้วมือ และสาเหตุมักเกิดจากการทำงานที่มากเกินไปในท่าทางซ้ำ ๆ เป็นเวลานานโดยเฉพาะที่ข้อมือและนิ้วมือเช่นเดียวกัน
การทำกิจกรรมเหล่านี้อาจเป็นการทำงานของแขนและข้อมือที่ส่งผลต่ออาการบาดเจ็บได้
เส้นทางสู่การฟื้นฟู
แนวทางการรักษา “4 Step Process” นั้นได้ถูกคิดค้นขึ้นมาจากทีมนักกายภาพบำบัดเฉพาะทางของ BPC เพื่อที่จะช่วยให้คนไข้ได้รับการรักษาและฟื้นฟูได้อย่างมีมาตราฐานสูงสุด
ขั้นตอนแรกของการรักษาคือการทำให้อาการปวดที่ส่งผลต่อการทำงานลดลงและหายไป โดยเราจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัยอันได้แก่ เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเลเซอร์กำลังสูงและเครื่องให้การรักษาด้วยคลื่นกระแทก ในการช่วยการลดปวดที่ประสบปัญหาอยู่
ต่อมาการให้การรักษาโดยนักกายภาพ คือ การใช้ manual technique ในบริเวณกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อต่างๆที่มีปัญหา เพื่อเป็นการผ่อนคลายส่งผลทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายบริเวณที่มีปัญหาดีขึ้น
จากนั้นเมื่อกล้ามเนื้อเกิดความยืดหยุ่นและการผ่อนคลายดีขึ้นแล้ว นักกายภาพจะใช้เทคนิคการรักษาเพื่อคงระยะการเคลื่อนไหวของบริเวณดังกล่าวให้อยู่ในภาวะสมดุล และส่งเสริมกำลังกล้ามเนื้อในบริเวณนั้นให้แข็งแรงพร้อมการใช้งานต่อไป
ท้ายที่สุดเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์ นักกายภาพบำบัดจะออกแบบ การออกกำลังกายและปรับท่าทางที่เหมาะสมตามแต่ละบุคคลเพื่อเป็นการยืนยันว่าอาการปวดดังกล่าวจะไม่กลับมาอีก และพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและดีขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่าคุณจะมีอาการบาดเจ็บหรือต้องการมีสุขภาพที่ดีขึ้น
เรามี สถานที่ ที่ดีที่สุด ในการช่วยเหลือคุณ