อาการปวดคอที่พบได้บ่อย ๆ อย่างปวด คอ บ่า ไหล่ คอเคล็ด หรือปวดคอท้ายทอยนั้น อาจจะสามารถทุเลาลงเองได้ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งก็มักจะเกิดจากสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง แต่อาการปวดคอสำหรับผู้ป่วยบางรายก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาและกายภาพบำบัดจากแพทย์เฉพาะทาง เมื่อพบว่ามีอาการบาดเจ็บติดต่อกันเรื่อย ๆ นานมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ สำหรับอาการปวดต้นคอนั้นไม่ได้บาดเจ็บเฉพาะบริเวณต้นคอเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึง หน้าอก บ่าไหล่หรือแขน ร่วมด้วย อย่างเช่น อาการกล้ามเนื้อมืออ่อนแรง ชาตามมือ หรือปวดร้าวที่ไหล่หรือแขน เป็นต้น
พฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อคอผิดหรือใช้งานคอนานเกินไป เช่น การนั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป การหันคอผิดท่าในขณะที่นอนหลับ จนปวดต้นคอด้านซ้าย ก้มหน้าเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือนานเกินไป และการนอนกัดฟัน ส่งผลให้เกิดกล้ามเนื้อคอแข็งเกร็ง
เมื่อศีรษะถูกกระชากโดยกระทันหัน หรือได้รับการกระแทกโดยไม่ได้ตั้งตัว ส่งผลให้ข้อต่อและเส้นเอ็นคอยึด ทำให้กล้ามเนื้อคอตึง เคลื่อนไหวคอได้น้อยลง และอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย
บางครั้งเรียกภาวะนี้ว่า โรคกระดูกสันหลังคอเสื่อม ซึ่งมักจะพบอาการปวดกระดูกต้นคอนี้ในผู้สูงอายุ หากกระดูกต้นคอเสื่อมอยู่ใกล้เส้นประสาทจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บลามไปที่แขน จนแขนเป็นเหน็บ มีอาการชาที่มือและขา แต่ผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 50 ปี ส่วนใหญ่กระดูกสันหลังคอจะเสื่อมโดยไม่มีอาการปวดต้นคอ ที่คลีนิกกายภาพบำบัด BPC ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม
กลุ่มนี้เป็นอาการปวดคอที่เกิดขึ้นจากภาวะกล้ามเนื้อ เอ็น หรือเนื้อเยื่ออ่อนอักเสบ (Polymyalgia Rheumatica: PMR) ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง
ปวดคอจากการกดทับของเส้นประสาทเกิดมาจากโรครากประสาทคอ หรือ Cervical Radiculopathy ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เพราะกระดูกสันหลังคอของผู้สูงอายุเริ่มเสื่อมและสูญเสียมวลน้ำในร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกขาดความยืดหยุ่นและเสี่ยงต่อการแยกของกระดูก เมื่อเกิดการกดทับของเส้นประสาท ผู้ป่วยจะมีอาการเหน็บชาตามแขน เจ็บปวดเส้นเอ็นคอและแขนอ่อนแรง ซึ่งอาจจะต้องทานยาบรรเทาอาการปวด หรือแนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด
การติดเชื้อไวรัสในคอจะทำให้ท่อน้ำเหลืองบวม ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวต้นคอ นอกจากนี้ยังมีอาการปวดต้นคอที่เกิดขึ้นจากโรคอื่น ๆ อีก เช่น วัณโรค กระดูกอักเสบ หมอนรองกระดูกอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะมีอาการปวดหัว มีไข้ และอาการคอแข็ง หรืออาการคอเคล็ดร่วมด้วย
อาการปวดร้าวคอหรือบาดเจ็บที่คอ จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวบริเวณคอ บ่า ไหล่ อย่างจำกัด ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันทั้งในเวลานอนหรือทำงาน หากเกิดอาการปวดต้นคอท้ายทอยติดต่อกันยาวนานให้รีบไปปรึกษาแพทย์หรือเข้ารับการรักษาอาการปวดต้นคอด้วยวิธีกายภาพบำบัด เพื่อลดอาการบาดเจ็บและช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ มาดูวิธีการรักษาอาการปวดต้นคอ ซึ่งอยู่หลายวิธี ดังนี้
ส่วนใหญ่แพทย์จะใช้วิธีการจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวด ซึ่งได้แก่
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดต้นคอ ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดร้าวที่ต้นคอ หรือปวดต้นคอท้ายทอย เรื้อรังเป็นเวลานาน จำเป็นที่จะต้องได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้องจากนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยผู้ป่วยในการกายภาพบำบัดปวดคอด้วยการจัดระเบียบร่างกาย ท่าทาง และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ ด้วยการออกกำลังกาย หรือกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเพื่อรักษาอาการปวดร้าวต้นคออย่างได้ผล
4 ขั้นตอนการบำบัดของ BPC ที่กำหนดขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อนำคุณไปสู่การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แบบและส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับผิดชอบสุขภาพของตัวเองผ่านโปรแกรมการออกกำลังกายที่กำหนดขึ้นแบบเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
ขั้นตอนแรกของการรักษา คือการลดอาการปวดแบบทันที เราจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเลเซอร์ และเครื่อง shockwave เพื่อลดความไม่สบายตัวและอาการปวดกล้ามเนื้อ นี่จะช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลาย และกลับไปใช้งานได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง
เราใช้การรักษาแบบ “หัตถการ” หรือ การบำบัดด้วยมือ โดยนักบำบัดของเราจะใช้มือวิธีนวดมือกับผู้ป่วยเพื่อช่วยผ่อนคลายข้อต่อ บรรเทาอาการเจ็บปวดของเนิ่อเยื่ออ่อนและคลายเส้นประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ยึดตึง คุณจะสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อกล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายแล้ว นักบำบัดของเราจะทำการเพิ่มขอบเขตการเคลื่อนไหวให้คุณ เพื่อให้ข้อต่อหรือกล้ามเนื้อที่ไม่เจ็บแล้วสามารถให้งานได้อย่างเต็มที่ หลังจากทำการบำบัดในขั้นตอนนี้ร่ววมกับนักบำบัดของเรา คุณจะเคลื่อนไหวได้ดีมากขึ้น เร็วขึ้นและยังได้เทคนิคการเคลื่อนหวเพื่อป้องกันการบาดเจ็บในอนาคตเพิ่มด้วย และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น คุณจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟูร่างกายด้วยการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
เพื่อให้ขั้นตอนการรักษาสมบูรณ์ พวกเราได้สร้างแผนการรักษาในรูปแบบที่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความเจ็บปวดและการอักเสบจะไม่กลับมาอีก ซึ่งจะทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขมากขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังได้ใช้เวลามากขึ้นกับคนที่คุณรักอีกด้วย
Whether you’re sick or in good health,
we have the best place to assist you.