ติดต่อตอนนี้
092-275-5090
English
ไทย
092-275-5090
092-275-5090
English
ไทย

กายภาพบำบัดปวดคอ ปวดร้าวต้นคอเรื้อรัง

อาการปวดคอที่พบได้บ่อย ๆ อย่างปวด คอ บ่า ไหล่  คอเคล็ด หรือปวดคอท้ายทอยนั้น อาจจะสามารถทุเลาลงเองได้ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งก็มักจะเกิดจากสาเหตุที่ไม่ร้ายแรง แต่อาการปวดคอสำหรับผู้ป่วยบางรายก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาและกายภาพบำบัดจากแพทย์เฉพาะทาง เมื่อพบว่ามีอาการบาดเจ็บติดต่อกันเรื่อย ๆ นานมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ สำหรับอาการปวดต้นคอนั้นไม่ได้บาดเจ็บเฉพาะบริเวณต้นคอเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึง หน้าอก บ่าไหล่หรือแขน ร่วมด้วย อย่างเช่น อาการกล้ามเนื้อมืออ่อนแรง ชาตามมือ หรือปวดร้าวที่ไหล่หรือแขน เป็นต้น

สาเหตุของอาการปวดต้นคอ

1. ใช้กล้ามเนื้อคอผิดหรือนานเกินไป 

พฤติกรรมการใช้กล้ามเนื้อคอผิดหรือใช้งานคอนานเกินไป เช่น การนั่งทำงานท่าเดิมนานเกินไป การหันคอผิดท่าในขณะที่นอนหลับ จนปวดต้นคอด้านซ้าย ก้มหน้าเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือนานเกินไป และการนอนกัดฟัน ส่งผลให้เกิดกล้ามเนื้อคอแข็งเกร็ง

 2. ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อศีรษะถูกกระชากโดยกระทันหัน หรือได้รับการกระแทกโดยไม่ได้ตั้งตัว ส่งผลให้ข้อต่อและเส้นเอ็นคอยึด ทำให้กล้ามเนื้อคอตึง เคลื่อนไหวคอได้น้อยลง และอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย

3. ภาวะกระดูกต้นคอเสื่อม 

บางครั้งเรียกภาวะนี้ว่า โรคกระดูกสันหลังคอเสื่อม ซึ่งมักจะพบอาการปวดกระดูกต้นคอนี้ในผู้สูงอายุ หากกระดูกต้นคอเสื่อมอยู่ใกล้เส้นประสาทจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บลามไปที่แขน จนแขนเป็นเหน็บ มีอาการชาที่มือและขา แต่ผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า  50 ปี ส่วนใหญ่กระดูกสันหลังคอจะเสื่อมโดยไม่มีอาการปวดต้นคอ ที่คลีนิกกายภาพบำบัด BPC ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม

4. กล้ามเนื้อคออักเสบ 

กลุ่มนี้เป็นอาการปวดคอที่เกิดขึ้นจากภาวะกล้ามเนื้อ เอ็น หรือเนื้อเยื่ออ่อนอักเสบ (Polymyalgia Rheumatica: PMR) ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง

5. การกดทับของเส้นประสาท 

ปวดคอจากการกดทับของเส้นประสาทเกิดมาจากโรครากประสาทคอ หรือ Cervical Radiculopathy ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เพราะกระดูกสันหลังคอของผู้สูงอายุเริ่มเสื่อมและสูญเสียมวลน้ำในร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกขาดความยืดหยุ่นและเสี่ยงต่อการแยกของกระดูก เมื่อเกิดการกดทับของเส้นประสาท ผู้ป่วยจะมีอาการเหน็บชาตามแขน เจ็บปวดเส้นเอ็นคอและแขนอ่อนแรง ซึ่งอาจจะต้องทานยาบรรเทาอาการปวด หรือแนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด

6. การติดเชื้อในคอ 

การติดเชื้อไวรัสในคอจะทำให้ท่อน้ำเหลืองบวม ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวต้นคอ นอกจากนี้ยังมีอาการปวดต้นคอที่เกิดขึ้นจากโรคอื่น ๆ อีก เช่น วัณโรค กระดูกอักเสบ หมอนรองกระดูกอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยในกลุ่มนี้จะมีอาการปวดหัว มีไข้ และอาการคอแข็ง หรืออาการคอเคล็ดร่วมด้วย

นอนหลับไม่สนิท
เกิดการชนกัน
การคุยโทรศัพท์
เล่นคอมพิวเตอร์
กีฬาที่มีการกระแทกรุนแรง
ท่าทางที่ไม่เหมาะสม

จะรักษาอาการปวดต้นคอได้อย่างไร?

อาการปวดร้าวคอหรือบาดเจ็บที่คอ จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวบริเวณคอ บ่า ไหล่ อย่างจำกัด ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตในแต่ละวันทั้งในเวลานอนหรือทำงาน หากเกิดอาการปวดต้นคอท้ายทอยติดต่อกันยาวนานให้รีบไปปรึกษาแพทย์หรือเข้ารับการรักษาอาการปวดต้นคอด้วยวิธีกายภาพบำบัด เพื่อลดอาการบาดเจ็บและช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ มาดูวิธีการรักษาอาการปวดต้นคอ ซึ่งอยู่หลายวิธี ดังนี้

  •  การรักษาด้วยยา ปวดต้นคอ ท้ายทอย กินยาอะไร

ส่วนใหญ่แพทย์จะใช้วิธีการจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวด ซึ่งได้แก่

  1.  ยาแก้ปวดพาราเซตามอล
  2. ยาแก้ปวดลดการอักเสบ แต่ยานี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะ โรคหอบ ความดันโลหิตสูง โรคไต และหัวใจล้มเหลว
  3. ยาแก้ปวดชนิดแรง หากใช้ยาลดการอักเสบแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจให้ยาโคเดอีน (Codeine) แทนได้
  4. ยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นยาสำหรับลดอาการตึงของอาการปวดต้นคอ อาการคอเคล็ด ซึ่งยานี้มักใช้เป็นวิธีแก้คอเคล็ดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดมานานหลายวัน
  • การกายภาพบำบัด เป็นอีกวิธีแก้ปวดต้นคอท้ายทอ

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดต้นคอ ปวดคอ บ่า ไหล่  ปวดร้าวที่ต้นคอ หรือปวดต้นคอท้ายทอย เรื้อรังเป็นเวลานาน จำเป็นที่จะต้องได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้องจากนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยผู้ป่วยในการกายภาพบำบัดปวดคอด้วยการจัดระเบียบร่างกาย ท่าทาง และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ ด้วยการออกกำลังกาย หรือกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเพื่อรักษาอาการปวดร้าวต้นคออย่างได้ผล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการปวดคอ บ่า ไหล่

อาการปวดคอ บ่า ไหล่ สามารถไปพบแพทย์ตรวจโรคทั่วไป หรือแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อได้
อาการคอตกหมอนเป็นการอักเสบของกล้ามเนื้อคออย่างเฉียบพลัน ปกติแล้ว อาการปวดคอหรือคอเคล็ดจากการตกหมอนจะสามารถหายเองได้ภายใน 3-7 วัน
หากเกิดอาการปวดคอแบบเฉียบพลัน มีอาการแดงบวม แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณที่มีอาการประมาณ 15-20 นาที เพื่อช่วยลดการอักเสบของกล้ามเนื้อคอ แต่หากเป็นอาการปวดเรื้อรัง ควรประคบร้อนเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยแนะนำให้ประคบร้อน 20 นาที
อาการปวดคอที่เป็นสัญญาณอันตราย คือ มีอาการปวดคอเรื้อรังมานานมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไปโดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการเบื่ออาหาร แขนขาอ่อนแรง มีไข้ เคลื่อนไหวลำบากและเจ็บหน้าอกร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์
อาการปวดคอท้ายทอย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด กล้ามเนื้อคออักเสบ ภาวะความดันโลหิตสูง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและโรครูมาตอยด์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ให้ได้รับการรักษาที่ถูกจุด
อาการปวดคอพบบ่อยในกลุ่มของคนที่นั่งทำงานนานๆ คนที่นอนหมอนสูงหรือต่ำเกินไป หรือคนที่บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย แต่หากมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรังก็อาจจะมีสาเหตุมาจาก กระดูกต้นคอเสื่อม หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือโรครูมาตอยด์ เป็นต้น
หากเกิดอาการปวดคล้ายไฟช็อต ปวดร้าวไปที่แขนหรือนิ้วมือ หรือบางรายมีอาการชาตามมือหรือแขน ให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ชัดเจน
กล้ามเนื้อคออักเสบอาจอันตรายขึ้นได้หากไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานานหรือยังถูกใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพราะบางรายอาจมีสาเหตุจากโรคร้ายได้
  • ควรปรับท่านั่งและยืนให้ถูกต้อง
  • ใช้หมอนที่รองรับสรีระของต้นคออย่างเหมาะสม
  • ประคบเย็นและร้อนเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ
  • การทำกายภาพบำบัด เพื่อฝึกยืดกล้ามเนื้อคอ แต่ควรรับคำแนะนำจากนักกายภาพบำบัดเพื่อจะสามารถฝึกได้อย่างถูกวิธี
อาการคอเคล็ดที่ไม่รุนแรงสามารถหายเองได้ โดยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด แต่หากมีอาการรุนแรงขึ้นควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

4 ขั้นตอนการบำบัดของ BPC ที่กำหนดขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อนำคุณไปสู่การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แบบและส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับผิดชอบสุขภาพของตัวเองผ่านโปรแกรมการออกกำลังกายที่กำหนดขึ้นแบบเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล

Road To Recovery
REDUCE Pain

ขั้นตอนแรกของการรักษา คือการลดอาการปวดแบบทันที เราจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเลเซอร์ และเครื่อง shockwave เพื่อลดความไม่สบายตัวและอาการปวดกล้ามเนื้อ นี่จะช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลาย และกลับไปใช้งานได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

RELAX Muscle

เราใช้การรักษาแบบ “หัตถการ” หรือ การบำบัดด้วยมือ โดยนักบำบัดของเราจะใช้มือวิธีนวดมือกับผู้ป่วยเพื่อช่วยผ่อนคลายข้อต่อ บรรเทาอาการเจ็บปวดของเนิ่อเยื่ออ่อนและคลายเส้นประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ยึดตึง คุณจะสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

RANGE Increase

เมื่อกล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายแล้ว นักบำบัดของเราจะทำการเพิ่มขอบเขตการเคลื่อนไหวให้คุณ เพื่อให้ข้อต่อหรือกล้ามเนื้อที่ไม่เจ็บแล้วสามารถให้งานได้อย่างเต็มที่ หลังจากทำการบำบัดในขั้นตอนนี้ร่ววมกับนักบำบัดของเรา คุณจะเคลื่อนไหวได้ดีมากขึ้น เร็วขึ้นและยังได้เทคนิคการเคลื่อนหวเพื่อป้องกันการบาดเจ็บในอนาคตเพิ่มด้วย และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น คุณจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟูร่างกายด้วยการออกกำลังกายที่ถูกต้อง

RECOVERY

เพื่อให้ขั้นตอนการรักษาสมบูรณ์ พวกเราได้สร้างแผนการรักษาในรูปแบบที่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความเจ็บปวดและการอักเสบจะไม่กลับมาอีก ซึ่งจะทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขมากขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังได้ใช้เวลามากขึ้นกับคนที่คุณรักอีกด้วย

Let Us Treat You

Whether you’re sick or in good health,
we have the best place to assist you.