ติดต่อตอนนี้
092-275-5090
English
ไทย
092-275-5090
092-275-5090
English
ไทย

แก้อาการออฟฟิศซินโดรม กายภาพบําบัดที่ต้องรักษาและพฤติกรรมที่ควรเลี่ยง

แก้อาการออฟฟิศซินโดรม กายภาพบําบัดที่ต้องรักษาและพฤติกรรมที่ควรเลี่ยง

โรคออฟฟิศซินโดรม หมายถึง กลุ่มอาการต่าง ๆ ได้แก่ การอักเสบของกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง อาการออฟฟิศซินโดรมเกิดจากความเครียดสะสมของกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ ขณะอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ๆ เช่น การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมง

บริเวณที่มักมีอาการปวดออฟฟิศซินโดรม ได้แก่

  • ปวดหัวออฟฟิศซินโดรม
  • ปวดหลัง office syndrome
  • ปวดไหล่ออฟฟิศซินโดรม
  • ปวดแขนออฟฟิศซินโดรม
  • ปวดข้อมือออฟฟิศซินโดรม

อาการออฟฟิศซินโดรมเป็นอาการที่ใครก็ไม่อยากเจอเพราะอาการเหล่านี้ ที่เป็นสัญญาณเตือนออฟฟิศซินโดรม ไม่ว่าจะเป็นการขยับคอไม่ได้ ข้อเข่าติดขัด ปวดหลังเนื่องจากเส้นเอ็นอักเสบ ปวดข้อมือขยับไม่ได้ เป็นต้น มักรบกวนการใช้ชีวิตอีกทั้งยังต้องเข้ารับการรักษา office syndrome เพื่อทำออฟฟิศซินโดรมกายภาพบําบัด หากใครที่มีเริ่มมีอาการก็ควรแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาหายได้ด้วยกายภาพบําบัดออฟฟิศซินโดรม

พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมเป็นปัญหาที่พบบ่อยในหมู่พนักงานออฟฟิศ ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือแล็ปท็อป รวมทั้งผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นประจำ พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมไม่จำเป็นต้องมาจากการทำงานในออฟฟิศเท่านั้น แต่อาจมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตระหว่างวันก็ได้

  • อาการปวดหลังออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดจากการนั่งไขว่ห้าง การนั่งอยู่บนขอบของที่นั่ง หรือแม้แต่การการสวมรองเท้าส้นสูงมากกว่า 1.5 นิ้ว
  • อาการปวดข้อมือออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดจากการเล่นโทรศัพท์มือถือ การยกเวทที่หนักเกินไป การทำงานบ้าน หรือการเขียนหนังสือนาน
  • อาการปวดคอออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดจากการนั่งหลังค่อมหรือก้มตัวไปข้างหน้า
  • อาการปวดแขนออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดจากการพิมพ์คีย์บอร์ดหรือใช้เม้าส์แบบผิดรูป
  • อาการปวดบ่าออฟฟิศซินโดรม อาจเกิดจากสะพายกระเป๋าของคุณบนไหล่ข้างหนึ่ง

พฤติกรรมบางอย่างก็อาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อและเยื่อผังผืดในส่วนอื่นด้วย เช่น อาการออฟฟิศโดรมปวดหัวและออฟฟิศซินโดรมปวดหลังอาจเกิดการการเกร็งกล้ามเนื้อคอและไหล่ ถ้าปล่อยให้เกิดความตึงสะสมก็สามารถเกิดเป็นออฟฟิศซินโดรมเรื้อรัง และต้องแก้ด้วยการทำออฟฟิศซินโดรมกายภาพบําบัดกับคลินิกกายภาพบําบัด ออฟฟิศซินโดรม เพราะหากเป็นออฟฟิศซินโดรม กายภาพบําบัดเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนอาการจะลามไประยะเรื้อรัง

วิธีรักษาออฟฟิศซินโดรม กายภาพบําบัด ทานยา ช่วยรักษาได้

ทางเลือกในการรักษาออฟฟิศซินโดรมมีหลากหลายวิธี ทั้งการดูแลรักษาด้วยตัวเอง การกายภาพบําบัดออฟฟิศซินโดรม  และการทานยา การรักษาและกายภาพบําบัดออฟฟิศซินโดรมนั้นแก้ยากแต่แก้ได้

สำหรับการกายภาพโรคออฟฟิศซินโดรมของทาง BPC คลินิกกายภาพบําบัด ออฟฟิศซินโดรม จะมีนักกายภาพบำบัดประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะ และเน้นการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัยในการกายภาพบำบัดผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมอย่างได้ผล ดังนี้

  1. เครื่องอัลตราซาวด์กายภาพบำบัดออฟฟิศซินโดรม (Ultrasound Therapy)

การทำกายภาพ office syndrome ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound Therapy) มักใช้รักษาปวดข้อมือ office syndrome หรือใช้หรือเครื่องเลเซอร์รักษาอาการปวดข้อมือ carpal tunnel syndrome หรือกายภาพบำบัดออฟฟิศซินโดรมระยะเรื้อรัง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดแบบรุนแรง

การอัลตร้าซาวด์ จะเป็นการใช้คลื่นความร้อนระดับลึก เข้าไปรักษาลึกถึงกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งจะมีการใช้กระแสไฟฟ้าที่มีความถี่สูงอยู่ที่ 1-3 MHz วิธีนี้จะช่วยลดอาการปวด การอักเสบของเนื้อเยื่อ ช่วยลดอาการบวม เร่งซ่อมแซมเนื้อเยื่อและช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ปวดเกร็ง เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ข้อต่อส่วนลึก

  • เครื่องช็อคเวฟกายภาพบำบัดออฟฟิศซินโดรม (Shock Wave)

วิธีนี้เรืียกอีกอย่างว่าการรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shock wave) ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรมที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ออฟฟิศซินโรมอาการหนักร่วมกับอาการอักเสบของเส้นเอ็น

การรักษาออฟฟิศซินโดรมด้วยเครื่อง Shock wave จะเป็นการใช้พลังงานจากคลื่นกระแทกที่เรียกว่า shock wave ทำให้ร่างกายเกิดกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา ช่วยลดอาการปวดของกระดูก เส้นเอ็นและส่วนอื่น ๆ ของร่างการให้เคลื่อนไหวทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ปวดคอ บ่า ไหล่ เรื้อรัง ออฟฟิศซินโดรม ปวดส้นเท้ารองช้ำ ปวดข้อศอกและโรคไตเสื่อม

หากผู้ป่วยเริ่มหายจากอาการออฟฟิศซินโดรม กายภาพบําบัดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพียงแค่คุณต้องดูแลรักษาตัวเอง เช่น การออกกำลังกาย การปรับสภาพแวดล้อมการทำงาน การพักผ่อน การยืนและนั่งในท่าที่ถูกวิธี หมั่นยืดเส้นออฟฟิศซินโดรม จะช่วยแก้ออฟฟิศซินโดรมละไม่ต้องมารักษา office syndrome กันอีก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาให้หายได้ หากมีการรักษาที่ถูกต้องและปรับพฤติกรรมในการนั่งหรือยืนทำงาน
ออฟฟิศซินโดรมมี 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จะมีอาการปวดๆ หายๆ ส่วนระยะที่ 2 อาการปวดจะคงค้างไม่หายไปไหน แม้ในยามหลับหรือตื่น หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงาน และระยะที่ 3 ปวดจนนอนไม่ได้ นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าโรคออฟฟิศซินโดรมได้เข้ามาอยู่กับคุณอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
ออฟฟิศซินโดรมไม่ได้เป็นอาการที่เสี่ยงต่อชีวิต แต่ก็สร้างความรำคาญและความยากลำบากให้แก่การดำเนินชีวิตได้
ออฟฟิศซินโดรมสามารถหายเองได้ หากได้รับการรักษาทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างถูกต้อง รวมถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งหรือยืนทำงานให้เหมาะสมด้วย
โรคออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการทำงานภายใต้แรงกดดันเป็นเวลานาน นั่งเป็นเวลานานและพักผ่อนไม่เพียงพอ และความเครียด เป็นต้น
คุณสามารถป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและการนั่งทำงานให้เหมาะสม การออกกำลังกาย การคลายเส้นและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออยู่เสมอ รวมถึงการจัดการกับความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ
ในการรักษาอาการเบื้องต้น ผู้ป่วยสามารถเบิกประกันสังคมได้ แต่หากมีอาการรุนแรงที่ต้องรับการรักษาแบบกายภาพบำบัดหรือการฝังเข็ม ครอบแก้ว จำเป็นที่จะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มเติม
พฤติกรรมที่ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม เช่น การนั่งทำงานหรือเล่นมือถือเป็นเวลานาน การทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่พักผ่อน การนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานๆ ทำงานที่มีความกดดันสูงเป็นเวลานาน และขาดการออกกำลังกายหรือการพักผ่อน เป็นต้น
ผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ได้แก่
  • คนที่ทำงานในสภาวะที่มีแรงกดดันสูงเป็นเวลานาน
  • คนที่ทำงานในออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น มีเสียงรบกวนมากเกินไปหรือแสงสว่างน้อยเกินไป
  • คนที่ทำงานในตำแหน่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ต้องนั่งนานๆ เช่น พนักงานสำนักงานที่ทำงานกับคีย์บอร์ดและเมาส์ตลอดเวลา
  • คนที่มีพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น การทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีการพักผ่อนเพียงพอหรือการใช้เวลานานกับการทำงานเล่นมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • คนที่ไม่มีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจในช่วงที่ทำงาน ไม่มีการออกกำลังกายหรือการฟื้นฟูร่างกายที่เพียงพอ
โรคออฟฟิศซินโดรมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรในองค์กรหรือผู้ทำงานในออฟฟิศ การรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญต่อการป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม

4 ขั้นตอนการบำบัดของ BPC ที่กำหนดขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด เพื่อนำคุณไปสู่การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แบบและส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับผิดชอบสุขภาพของตัวเองผ่านโปรแกรมการออกกำลังกายที่กำหนดขึ้นแบบเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล

Road To Recovery
REDUCE Pain

ขั้นตอนแรกของการรักษา คือการลดอาการปวดแบบทันที เราจะใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องเลเซอร์ และเครื่อง shockwave เพื่อลดความไม่สบายตัวและอาการปวดกล้ามเนื้อ นี่จะช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลาย และกลับไปใช้งานได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

RELAX Muscle

เราใช้การรักษาแบบ “หัตถการ” หรือ การบำบัดด้วยมือ โดยนักบำบัดของเราจะใช้มือวิธีนวดมือกับผู้ป่วยเพื่อช่วยผ่อนคลายข้อต่อ บรรเทาอาการเจ็บปวดของเนิ่อเยื่ออ่อนและคลายเส้นประสาท ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ยึดตึง คุณจะสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

RANGE Increase

เมื่อกล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายแล้ว นักบำบัดของเราจะทำการเพิ่มขอบเขตการเคลื่อนไหวให้คุณ เพื่อให้ข้อต่อหรือกล้ามเนื้อที่ไม่เจ็บแล้วสามารถให้งานได้อย่างเต็มที่ หลังจากทำการบำบัดในขั้นตอนนี้ร่ววมกับนักบำบัดของเรา คุณจะเคลื่อนไหวได้ดีมากขึ้น เร็วขึ้นและยังได้เทคนิคการเคลื่อนหวเพื่อป้องกันการบาดเจ็บในอนาคตเพิ่มด้วย และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น คุณจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการฟื้นฟูร่างกายด้วยการออกกำลังกายที่ถูกต้อง

RECOVERY

เพื่อให้ขั้นตอนการรักษาสมบูรณ์ พวกเราได้สร้างแผนการรักษาในรูปแบบที่ถูกต้องและการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความเจ็บปวดและการอักเสบจะไม่กลับมาอีก ซึ่งจะทำให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขมากขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังได้ใช้เวลามากขึ้นกับคนที่คุณรักอีกด้วย

Let Us Treat You

Whether you’re sick or in good health,
we have the best place to assist you.